ไม่น่าแปลกใจเลยที่ พรีเมี่ยมบิ๊กสกู๊ตเตอร์อย่าง All new Forza 350 จะสามารถทำยอดจำหน่ายได้ดีติดอันดับต้น ๆ ในงานมหกรรมยานยนต์ที่ผ่านมา เพราะนอกจากจะมีการปรับโฉม พร้อมยกระดับความสปอร์ตให้ขับขี่ใช้งานได้คล่องตัวแบบน้อง ๆ รถสกู๊ตเตอร์ขนาดเล็ก ถึงแม้ชุดแฟริ่งของรถจะมีความใหญ่โตเพื่อการบังลมที่ดีแล้ว เครื่องยนต์ ESP+ 329.6 ซีซี ที่หยิบยืมเทคโนโลยีมาจากรถสปอร์ตและแกรนด์ทัวร์ริ่งรุ่นใหญ่ของทางค่ายเอง ก็ยังมีสมรรถนะและอัตราเร่งที่ติดมือดีมาก ไม่ว่าจะขี่ในเมืองหรือใช้วิ่งทางไกล
Fast Bikes Thailand ของเราเคยรีวิว Forza 350 ใหม่ตัวนี้มาแล้ว ทั้งตอนเปิดตัวช่วงต้นเดือนตุลาคมปี 65 รวมถึงการขี่ทางไกลในกิจกรรม Honda Forza 350 The Exceptional Trip บนเส้นทางไปกลับ กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี กว่า 400 กม. แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ “เล่นใหญ่” และวิ่งไกลเท่ากับ Exclusive Trip ที่รายการ FastTrack Weekend Touring จัดขึ้นในครั้งนี้ เพราะมันเป็นการขี่จาก กรุงเทพฯ ไป ตาก-แม่สอด-แม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอน-บ้านรักไทย-ปาย แล้วไปจบที่เชียงใหม่ ก่อนจะวิ่งกลับลงมาเป็นระยะทางกว่า 2,000 กิโลเมตร โดยมีไฮไลท์เป็นการขับขี่ พิชิต 4,088 โค้ง
ตลอดเส้นทางตั้งแต่ต้นจนจบของทริป สมรรถนะของพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์รุ่นนี้ จะเป็นยังไง เรานำ ฟีลลิ่งจากปากของ End user อย่างคุณกาย อลงกรณ์ ไตรรัตน์ถนอม ซึ่งยังมีสายซ้อนอย่างคุณมาเฟีย จิดาภา ฤทธิจักร และ คุณปอน อิทธิพร ทิพยศร ที่พึ่งเคยขี่ Forza บนทางไกลขนาดนี้เป็นครั้งแรก มาเรียบเรียงให้ทุกท่านได้ติดตามกัน…
เริ่มต้นออกเดินทาง
เรานัดกันที่ปั๊ม PTT Station ปตท.อยุธยา-เอเชีย กม.62 ตอน 6 โมงเช้า หลังถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกันเสร็จเรียบร้อย ขบวนก็เริ่มออกเดินทางสู่ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยใช้เส้นทาง ชัยนาท-นครสวรรค์-พิษณุโลก-กำแพงเพชร ซึ่งรถในทริปนี้ก็มีตั้งแต่ “ยานพ่อ” ซีซีเกินพันหลายคัน ก่อนจะลดหลั่นลงมาเป็น 650 และ Forza 350 สองคันเป็นน้องเล็กสุด การขับขี่มีแบ่งเป็นกลุ่มเร็ว กลุ่มกลาง และกลุ่มหลัง โดยมีมาร์แซลคอยนำ, ปิดท้ายและดูแลในแต่ละกลุ่ม ระยะทาง 160 กม. แรกมุ่งหน้าสู่นครสวรรค์ ก่อนจะเลี้ยวซ้ายออกบายพาสเพื่อหยุดเติมน้ำมันที่ปตท. บ้านยางตาล Forza 350 ทั้งสองคัน (คันแรกขี่คนเดียวมัดสัมภาระท้าย อีกคันซ้อนสองมีสัมภาระเช่นกัน) สามารถติดตามกลุ่มจากท้ายจนไล่ขึ้นไปรวมกับกลุ่มกลางเมื่อผ่านช่วงของการจราจรไปได้อย่างสบาย
ช่วงที่การจราจรายังค่อนข้างหนาแน่น ท่านั่งกับองศาคอที่วางมาทำให้รู้สึกว่ารถนั้นมีความคล่องตัวดีมาก สวิงเปลี่ยนเลนตามช่องจราจรในความเร็วได้ฉับไว บาลานซ์ดี โดยรู้สึกว่าหน้ารถไม่เบาและไม่ร่อนเลย เครื่อง ESP+ 329.6 ซีซี อัตราเร่งมาไว นุ่มนวล เกียร์ออโตต่อเกียร์ดี ไม่กระตุก เปิดคันเร่งรถดึงทันที เร่งแซงได้ขาด จะรู้สึกว่ากระชากจริง ๆ ก็ตอนที่เราตั้งใจกดคันเร่งไว ๆ เท่านั้น ต้นมาดี กลาง-ปลายไหลเรื่อย ๆ พอรถโล่งความเร็วจากที่ใช้ในกลุ่มหลังจาก 100-120 ก็มีไหลขึ้นไปแตะ 140 และหมดไมล์ที่ 155 กม./ชม. บ้าง จนบางช่วงสามารถขึ้นมารวมกับกลุ่มกลางและเกาะไปกับเขาได้ (กลุ่มเร็วไม่ต้องพูดถึงเพราะเขาไปกันลิ๊บแล้ว) ถึงจุดเติมน้ำมันปั๊มแรก อัตราสิ้นเปลืองที่โชว์คือประมาณ 25-26 กิโลเมตร/ลิตร จากการใช้ความเร็วยิงยาวมาในหลายช่วงของทาง ซึ่งถ้าเป็นการใช้งานจริงในเมืองน่าจะประหยัดกว่านี้ ที่ชอบมากคือชิลด์ปรับไฟฟ้าที่กดเลื่อนขึ้นมาบังลมตอนขี่ได้ดีมาก (ระยะประมาณ 150 มม. ถ้าจำไม่ผิด) บวกกับชุดแฟริ่งที่มีความใหญ่ออกแบบมาให้ตัดกระแสลมจากตัวผู้ขี่และคนซ้อนได้ดี ทำให้การวิ่งทางไกลรู้สึกสบาย ไม่ล้า เครื่องไม่สั่น ขี่นานไม่รู้สึกสะท้าน
เริ่มโค้งสเตท 1 กับการเดินทางแม่สอด-แม่สะเรียง
หลังกินอาหารกลางวันที่ร้าน อ.กุ้งเผา ใกล้ถนนสายเอเชีย แม่สอด-แม่ระมาด ขบวนของเราก็ใช้ทางหลวงเส้น 105 (แม่สอด-แม่ระมาด-ท่าสองยาง) จุดหมายในวันแรกสู่ อ.แม่สะเรียง ระยะทางประมาณ 230 กม. ช่วงนี้โค้งเริ่มมีมาให้เห็นหลากหลายรูปแบบ ด้านช่วงล่างต้องบอกว่า โช้คของ Forza 350 เซ็ตมาค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียวสำหรับการขับขี่เดินทาง ถึงจะซ้อนสองมีสัมภาระ แต่โช้คหลังเดิม ๆ ก็ยังเอาอยู่โดยปรับ Preload เพิ่มขึ้นมาแค่เพียง 2 ระดับเท่านั้น คันที่ขี่คนเดียวไม่ได้ปรับเลยเดิม ๆ ก็ยิงยาวไปได้สุดตลอดทุกโค้ง พอเจอโค้งเยอะ ๆ ระยะแฮนด์ที่ให้มากำลังเหมาะทำให้คุมรถพลิกโค้งได้ถนัด รถทำมุมเลี้ยวได้เร็ว คล่องตัวดี แม้จะสวิงเข้าโค้งถัดไปในความเร็วก็ไม่รู้สึกว่าหน้ารถมีอาการดิ้น หรือโบกให้เห็น กำลังเครื่องยนต์ดันขึ้นทางชันสบายๆ ไม่ต้องลุ้น โดยเฉพาะรอบต้นที่มาแบบนุ่มหนัก ถ้าเผลอตวัดเร็ว ๆ อาจมีดึงแรงบ้างเพราะค่อนข้างจัด อันนี้คือการตอบสนองในช่วงต้น ๆ ที่หลายคนอาจต้องปรับตัวเข้าหาซักเล็กน้อย
บางช่วงที่ทางไม่ดี เจอหลุม โช้คหน้าถือว่าซับแรงได้ดีเลยทีเดียว หลังที่บรรทุกหนักทั้งผู้โดยสารและสัมภาระอาจรู้สึกกระเทือนบ้างแต่ก็ไม่มาก ช่วงลงเขาระยะเบรกสั้นกว่าที่คิดไว้ เบรกไล่น้ำหนักได้ดี หยุดความเร็วได้แบบไม่ต้องลุ้น บางช่วงที่กำหนักจน ABS ทำงานก็พบว่าก้านเบรกเต้นไม่มาก ถือว่าตอบสนองได้โอเคมากสำหรับระบบเบรกติดรถ
วันที่ 2 จากแม่สะเรียงไปแม่ฮ่องสอน-บ้านรักไทย
ออกจากโรงแรม ริเวอร์เฮ้าส์ รีสอร์ท แม่สะเรียงเราใช้เส้นทาง 108 จุดหมายคือบ้านรักไทย วันนี้โค้งเยอะจัดกว่าเดิม เรียกได้ว่า มาทุกสเตทแถมบางช่วงแอบขนานนามให้เลยว่า มันคือเซอร์กิตโค้งดีๆ นี่เอง โดยใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง สำหรับการขับขี่เป็นระยะทางราว ๆ 163 กม.เท่านั้น อย่างหนึ่งที่ทำให้การขับขี่และเปิดคันเร่งในโค้งทำได้อย่างมั่นใจ โดยเฉพาะในช่วงเช้าๆ ที่ยางและถนนยังเย็นคือ ระบบ HSTC ซึ่งทำให้การกลับมาเปิดคันเร่งหนักๆ รู้สึกว่ายางหลังนั้นไม่มีอาการสลิปในโค้ง
วัดพระธาตุดอยกองมู
หลังอาหารกลางวันที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เราแวะสักการะพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอน ณ วัดพระธาตุดอยกองมู ก่อนมุ่งหน้าไป “สะพานไม้ไผ่แห่งศรัทธา” ซูตองเป้ และต้องยิงยาวให้ถึงบ้านรักไทยก่อน 5 โมงเย็น ซึ่งตอนออกจากพระธาตุหลายคันแวะเติมน้ำมันเพื่อกันเหนียวอีกรอบเพราะเส้นทางบนเขาจะหาปั๊มยากแล้ว แต่ Forza ยังน้ำมันเหลือวิ่งถึงบ้านรักไทยได้แบบสบาย ๆ
สะพานซูตองเป้
วันที่ 3 บ้านรักไทย-ปาย-เชียงใหม่
วันนี้เราออกจากบ้านรักไทยขับขี่เข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ โดยจะแวะทานมื้อกลางวันกันที่ อ.ปายมาถึงจุดนี้โค้งนั้นเริ่มจะอยู่มือพวกเราแล้ว เส้นทางเริ่มชิลล์แบบขี่ไปแวะจิบกาแฟ แวะเก็บภาพที่ระลึกกันไป ตามจุดชมวิวต่างๆ และก็เริ่มจับความรู้สึกตอนบิดเพลินๆ ได้ว่า Forza มันขี่สบายกว่าที่คิดมาก เบาะนิ่ม ชิลด์บังลมดี มีกำลังเครื่องยนต์เหลือเฟือ แถมคนซ้อนก็ยังนั่งสบายเอนหลังโยนตัวกันไปตามโค้งแบบเพลินๆ ได้เลย
เจอโค้งเยอะ ๆ เรายิ่งตามรถใหญ่เขาง่ายขึ้นไปอีก หน้าท่องเที่ยวปลายปีแบบนี้ยิ่งใกล้ตัวเมืองก็ยิ่งมีเพื่อนร่วมใช้เส้นทางขึ้น-ลงเขาหนาแน่น ตอนที่ต้องแซง Forza 350 ก็บิดตามพี่ ๆ คันหน้าไปได้แบบไม่เสียจังหวะ รถต่อเกียร์และให้แรงบิดได้ดีมากสำหรับบิ๊กสกู๊ตเตอร์ คือรู้สึกว่ามันให้อารมณ์สปอร์ตบิดสนุกอยู่นะในหลายช่วงทาง
สรุป
ขับขี่เดินทางฝ่า 4,088 โค้ง จาก ตาก-แม่สอด-แม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอน-บ้านรักไทย – ปาย จนไปถึงเชียงใหม่และขี่กลับมาถึงกรุงเทพเป็นระยะทางรวมทั้งหมดเกือบ ๆ 2,000 กิโลเมตรอย่างปลอดภัย ทริปนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเราเคยขี่ Forza 350 เดินทางไกลและเข้าโค้งเยอะขนาดนี้ ซึ่งก็ต้องบอกว่ามันเป็นประสบการณ์ที่สนุกและสบายเกินคาด เพราะปกติรถที่ใช้จะเป็นสายสปอร์ตไบค์พัน รวมทั้งพวกเราก็ได้ฝึกทักษะเพิ่มเติมในสนามกันด้วยเรื่องกังวลใจในการขับขี่นั้นไม่มีเพราะพี่ๆ ครูฝึกในทริปคอยดูแลอย่างดี ประสบการณ์จากทริปนี้ได้ลองบิ๊กสกู๊ตเตอร์ยอดนิยมก็ต้องบอกเลยว่าติดใจ เพราะ Forza มันขี่สบาย มีกำลังดี และประหยัดน้ำค่าน้ำมันไปได้มาก ขอบคุณกิจกรรม FastTrack Weekend Touring ที่ให้เราร่วมทริปดีๆ และไทยฮอนด้าที่ให้เรายืมรถไปขับขี่กันในครั้งนี้ด้วยครับ
