หลายคนน่าจะได้ทราบข่าวจากงาน PRESS CONFERENCE & DEALER MEETING 2018 งานแถลงข่าวล่าสุดของ A.P. Honda ไปแล้วว่า ภายในปี 2018 นี้จะมีรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ออกวางจำหน่ายทั้งสิ้นจำนวน 10 รุ่นด้วยกัน พร้อมกันนี้ภายในงานก็ได้เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่จำนวน 2 รุ่นด้วยกัน โดยรุ่นแรกก็คือ Honda CB300R มอเตอร์ไซค์ทรง Neo Sports Café และอีกรุ่นก็คือ All New Honda Super Cub ที่เราจะพูดถึงกันภายในวันนี้นั่นเอง
“Forever Retro เจแปนนิสเรโทรแท้ ยังไงก็ไม่เปลี่ยน”
เป็นเวลากว่า 60 ปีมาแล้วที่ชาวโลกได้รู้จักกับ Honda Super Cub รถจักรยานยนต์ประวัติศาสตร์รุ่นแรก ๆ ที่ Honda ได้พัฒนาขึ้นมา โดยการกลับมาในครั้งนี้ ทาง Honda ก็ได้ทำการปรับโฉมใหม่ทั้งคันให้กับมอเตอร์ไซค์ครอบครัวคันนี้ ซึ่งแม้จะเป็นการปรับโฉมใหม่ทั้งคันจากรุ่นก่อนหน้า แต่ All New Honda Super Cub คันนี้ก็ยังคงสืบทอดความออริจินัลดั้งเดิมในตัวดีไซน์ตามแบบฉบับของรถมอเตอร์ไซค์ซีรีส์นี้ไว้อย่างเต็มเปี่ยมหัวจรดท้าย
S Shape Design ดีไซน์ดั้งเดิมที่คงเอกลักษณ์ความเป็น Cub
หลายคนอาจสงสัยว่า S Shape Design คืออะไร? S Shape Design คือรูปทรงของตัวบอดี้อันเป็นเอกลักษณ์ของรถมอเตอร์ไซค์ซีรีส์ Super Cub ซึ่งเกิดจากการดีไซน์ส่วนโค้งเว้าของตัวโครงรถตั้งแต่บริเวณบังลมขา (Leg Shield) ทอดยาวไปถึงบริเวณบังโคลนหลัง (Rear Fender) ให้เป็นรูปตัว S แบบแนวนอน ซึ่ง S Shape Design นี้เป็นลักษณะของรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ของรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Super Cub ที่ฝังลึกสืบทอดกันมาอย่างยาวนานในทุกรุ่นของ Super Cub
การกลับมาของไฟหน้าทรงกลม พรัอมไฟเลี้ยวแยก
คงไม่มีอะไรที่สื่อถึงความเป็น Super Cub รุ่นดั้งเดิมได้ดีไปกว่ารูปแบบไฟหน้าทรงกลมของ Super Cub ซึ่งเป็นทรงไฟหน้าดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่ Honda Super Cub C100 รุ่นปี 1958 หรือ Honda Super Cub รุ่นแรก โดยการกลับมาของไฟหน้าทรงกลมครั้งนี้ Honda ก็ได้อัพเกรดให้ไฟส่องสว่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยระบบไฟ LED ที่พร้อมจะส่องทางในทุกการขับขี่ ขนาบคู่ด้วยไฟเลี้ยวแยกทรงกลมสีส้มอำพันที่ช่วยเสริมให้ความเป็น Cub ในแบบฉบับดั้งเดิมนั้นชัดเจนมากขึ้นไปอีก
คงความออริจินัลด้วยดีไซน์แบบเรโทรอย่างเต็มเปี่ยม
All New Honda Super Cub ถูกดีไซน์ขึ้นมาโดยใช้แนวคิดแบบ Japanese Retro ดังนั้นในส่วนประกอบต่าง ๆ จึงถูกดีไซน์ขึ้นมาโดยสื่อถึงความเป็นเรโทรเป็นหลักเช่น หน้าปัดเรือนไมล์แม้จะเป็นการปรับโฉมใหม่หมดทั้งแผง แต่ก็ยังคงรูปแบบดั้งเดิมของดีไซน์ไว้โดยไม่ต้องนำเอาเทคโนโลยีหวือหวาอะไรมาเพิ่มเติม ประกอบกับการนำเอา Logo แบบดั้งเดิมของ Super Cub เข้ามาประดับอยู่ส่วนบนของหน้าปัดซึ่งสะท้อนถึงความออริจินัลได้เป็นอย่างดี หรือจะเป็นในส่วนของเบาะแยกสองตอน สี 2-Tone สุดคลาสสิค ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง Signature ที่ขาดไม่ได้ของ Super Cub
เครื่องยนต์อัพเกรดใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คอเรโทร
นอกจากในส่วนของดีไซน์ที่นำเสนอเอกลักษณ์ของความเป็น Japanese Retro แท้ ๆ แล้ว ตัวเครื่องยนต์ของรถมอเตอร์ไซค์โฉมใหม่คันนี้ก็พิเศษไม่แพ้กัน เพราะทาง Honda ได้มีการอัพเกรดเครื่องยนต์ของรุ่นนี้จากรุ่นก่อนให้มีสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีขึ้นไปอีกระดับ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การขับขี่ของคนคอเรโทรอย่างแท้จริง ด้วยระบบเกียร์วนแบบ 4 จังหวะ ระบบหัวฉีด PGM-FI พร้อมถังน้ำมันความจุ 4.2 ลิตร ซึ่งสามารถประหยัดน้ำมันสูงสุดได้ถึง 60.1 กม./ ลิตร (ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนซึ่งสามารถประหยัดสูงสุดที่ 57 กม./ ลิตร) ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ดีเยี่ยม ทนทาน ใช้งานได้นาน
มาพร้อม 6 สีสวยงามตามสไตล์เรโทร
สำหรับสีหลักของ All New Honda Super Cub ประจำปีนี้ จะเป็นในส่วนของสีเขียวเข้มตัดกับสีขาว Green-White ให้เสน่ห์ลุ่มลึกชวนหลงใหลไปกับความคลาสสิกและความเป็นออริจินัล ซึ่งนอกจากสีหลักแล้วก็จะมีอีก 5 สีให้ทุกคนได้เลือกเป็นเจ้าของ ประกอบด้วย Blue-White (น้ำเงิน-ขาว) BUW, Yellow-White (เหลือง-ขาว) Y-W, White (ขาว) WHT, Red-White (แดง-ขาว) R-W, Pink-White (ชมพู-ขาว) P-W
ร่วมไปสัมผัสความเรโทรของมอเตอร์ไซค์รุ่นตำนานที่ปรับโฉมใหม่อย่าง All New Honda Super Cub คันนี้ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ ในราคาแนะนำโดยประมาณที่ 47,100 บาท ส่วนใครที่ยังรอรุ่นอื่น ๆ อยู่ ก็อดใจรอกันอีกนิดนึงนะครับ เพราะทาง A.P. Honda ก็ได้ประกาศมาแล้วว่า ภายในปีนี้ยังมีมอเตอร์ไซค์อีก 8 รุ่นด้วยกันที่ต่อคิวรอเปิดตัวมาให้ทุกคนได้สัมผัสกันแบบจัดเต็ม!
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ All New Honda Super Cub (2018) : https://www.aphonda.co.th/honda2017/th/motorcycle/family/all-new-honda-super-cub-2018
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์รุ่น Family : https://www.aphonda.co.th/honda2017/th/motorcycle/family
